วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 10

Blog (n.) Short for Web log, a blog is a Web page that serves as a publicly accessible personal journal for an individual. Typically updated daily, blogs often reflect the personality of the author.

แปลได้ว่า : Blog ย่อมาจาก "Weblog" โดยตัดตัว "We" ด้านหน้าออกไป และหมายถึงหน้าเว็บที่ใครๆก็เข้าไปอ่านเรื่องที่คนเขียนเรื่องต่างๆเอาไว้ได้ของแต่ละคน โดยมากก็จะอัพเดตกันได้ทุกวัน และ blog มักจะสะท้อนบุคลิกส่วนตัวของเจ้าของ blog

ผู้คิดค้น

คำว่า "Weblog" ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997. ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่"blog" แทนในเดือนเมษายนปีคศ. 1999 และจนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม คศ.2003 ทาง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ

รูปแบบ

รูปแบบของ blog นั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่เป็นหัวข้อลิงค์ง่ายๆไปจนถึงการรวมเรื่องที่มีการให้คนอื่นที่มาดู blog เขียนคอมเม้นท์ไว้ได้ หรือโหวตให้คะแนนได้ blog มักจะลงวันที่และเวลาที่เขียนไว้ด้วย และรายการที่โพสล่าสุดมักจะอยู่ข้างบน เนื่องจากลิงค์เป็นเรื่องสำคัญมากของ blog โดยมาก blog ต่างๆจึงต้องทำลิงค์ให้ไปอ่านเรื่องเก่าๆได้ง่ายและชื่อเว็บที่เรียกเข้า blog แต่ละคนก็จะเขียนแบบง่ายๆด้วยครับ

แนวคิดการบริหาร : Blog สื่อใหม่ที่น่าจับตา

โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 14 มีนาคม 2548 18:36 น.


Blog คืออะไร? ผู้รู้หลายๆ ท่านมักจะชอบเปรียบเปรยว่า Blog เป็นเหมือนกับสมุดบันทึกหรือไดอารี่ที่เราเขียนเป็นประจำ เพียงแต่สมุดบันทึกดังกล่าวแทนที่จะเขียนบนกระดาษเรากลับเขียนลงบนโลกออ นไลน์ ที่คนทั่วโลกเขาสามารถอ่านกันได้ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นตอบกลับมาได้

เรื่องที่เราเขียนบน Blog อาจจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากจะเขียนไม่ว่าจะเป็นการพร่ำพรรณนาถึงแสงแดด สายลม และความรัก หรือ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เราเจอรอบๆ ตัว หรือ แม้กระทั่งการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ ฯลฯ

ชื่อของ Blog นั้นมาจากคำว่า Weblog แต่เรียกให้สั้นเข้าก็เลยตัด We ออกเหลือเพียงแค่ Blog เท่านั้นครับ และทาง Oxford English Dictionary ก็ได้บรรจุคำๆ นี้ลงในพจนานุกรมของตัวเองแล้วครับ (ขอขอบพระคุณ kapook.com สำหรับข้อมูลนะครับ) Blog ทำให้ทุกคนสามารถกลายเป็นนักเขียนได้อย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุด ตอนนี้ประมาณกันว่ามีจำนวนผู้ที่เขียน Blog เป็นประจำมากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก

ถึงแม้อินเตอร์เนตจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในเรื่องของการสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆ มานานนับสิบกว่าปีแล้ว แต่ท่านผู้อ่านลองสังเกตดูซิครับว่าข่าวที่สื่อออกไปผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็ยังเป็นข่าวเดิมๆ ที่ได้มีการสื่อผ่านทางช่องทางอื่นอยู่แล้ว ไม่ต้องมองอื่นไกลครับ เว็บข่าวหลายๆ แห่งของเมืองไทยก็นำเนื้อหามาจากหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ โดยดัดแปลงเข้าสื่ออินเตอร์เนตเท่านั้นเอง

แต่ในโลกของ Blog หรือที่เขาเรียกกันว่า Blogosphere นั้น โลกของข้อมูลข่าวสารที่เขียนนั้นไม่ได้ถูกควบคุมและผู้เขียนเป็นผู้เลือก สิ่งที่จะเขียน ผลก็คือ Blog หลายๆ แห่งทั่วโลกกำลังกลายเป็นสื่อแห่งใหม่ที่กำลังส่งผลและมีอิทธิพลต่อความคิด วิถีชีวิต หรือพฤติกรรมในการซื้อของ ของคนนับล้านทั่วโลก ซึ่งสุดท้ายองค์กรธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวต่อกระแสความตื่นตัวของ Blog อย่างไรก็ดี ซึ่งในตอนนี้องค์กรยักษ์ใหญ่หลายๆ แห่งก็เริ่มที่จะตระหนักและปรับตัวให้ทันตามกระแส Blog กันมากขึ้น

ลองดูตัวอย่างที่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อองค์กรธุรกิจบ้างนะครับ เมื่อปลายปีที่แล้วมีคนเขียน Blog เกี่ยวกับปัญหาของที่ล็อคกุญแจจักรยานยี่ห้อ Kryptonite (เป็นรูปตัวยู เอาไว้ล็อคจักรยานกับราวเหล็กกันขโมย) ว่าที่ล็อคยี่ห้อนี้สามารถแงะออกมาได้ด้วยเพียงแค่ปากกาลูกลื่น ซึ่งข่าวก็กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก มี Blog บางแห่งที่มีวิดีโอสาธิตให้ดูด้วย

ในตอนแรกบริษัท Kryptonite ก็เพียงออกมาแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริงและสัญญาว่าในรุ่นต่อไปจะแข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ข่าวสงบลง ทุกวันก็จะมีการเขียน Blog ใหม่ๆ ถึงที่ล็อคกุญแจยี่ห้อดังกล่าว จนท้ายที่สุดเพียงแค่สิบวันจากที่มี Blog แรก ทางบริษัทตัดสินใจที่จะส่งที่ล็อคกุญแจอันใหม่ไปให้ผู้ใช้ทั้งหมด 100,000 อัน ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินทั้งหมด 10 ล้านเหรียญ (เป็นบริษัทที่มีรายได้ 25 ล้านเหรียญต่อปี) ผู้บริหารเขากระอักเลยครับ 10 วัน 10 ล้านเหรียญ

ในขณะเดียวกันก็มีบางบริษัทเช่นมาสด้าที่พยายามจะใช้ประโยชน์จาก Blog เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น โดยเขียน Blog ของตัวเองขึ้นมา (ใช้ชื่อสมมติ) และใน Blog ดังกล่าวก็มีแต่วิดีโอโฆษณารถของมาสด้า ซึ่งผลก็คือผู้ที่เข้ามาดูไม่ถูกหลอก และมาสด้าก็ถูกวิจารณ์ไปจนต้องปิด Blog ของตัวเองลงภายในสามวัน

แต่ก็ใช่ว่า Blog จะส่งผลในทางลบต่อองค์กรธุรกิจนะครับ ส่งผลในทางบวกก็มี เช่นกรณีของ Shayne McQuade ผู้ประกอบการที่คิดเป้สะพายหลัง ที่มีแผงพลังงานรับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อนำมาใช้ในการชาร์จพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งเรามักจะพกติดกระเป๋า เช่นโทรศัพท์มือถือ หรือ PDA ต่างๆ ซึ่ง McQuade ก็ได้ทำการออกแบบ ผลิตทุกอย่างจนเรียบร้อย เหลือเพียงแค่การทำการตลาด ซึ่ง McQuade ก็ได้ขอให้เพื่อนของเขาที่มี Blog ของตัวเอง ช่วยพูดถึงสินค้าของเขาให้หน่อย ปรากฏว่าจาก Blog เล็กๆ ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ได้มี Blog ขนาดใหญ่ที่พาดพิงถึง และสุดท้ายยอดสั่งซื้อก็เข้ามาอย่างทะลักทลาย

ในปัจจุบันอาจจะถือว่าวิวัฒนาการและความนิยมของ Blog ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นนะครับ แต่จากผู้เชี่ยวชาญหลายๆ สำนักต่างมองตรงกันว่า Blog จะเป็นความตื่นตัวครั้งใหม่ในวงการ ซึ่งองค์กรธุรกิจทุกแห่งจะต้องรู้จักที่จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก Blog ให้เป็น มีการเตือนกันไว้ว่านักการตลาดจะต้องรู้จักที่จะบริหารจัดการกับ Blog ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากสื่อธรรมดาทั่วๆ ไป เนื่องจาก Blog ไม่ได้เป็นเพียงที่ๆ จะโฆษณาเท่านั้นนะครับ แต่ยังเป็นที่ๆ คนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย

ท่านผู้อ่านที่อยากจะรู้จักและเข้าใจ Blog ให้มากขึ้นลอง
เริ่มต้นที่ Blogger.com ดูก็ได้นะครับ เป็นของ Google หรือ มีหลายเว็บที่ได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในพวกยอดนิยมเช่น www.weblog.ro หรือ www.slashdot.org หรือในเมืองไทยที่ตอนนี้เป็นแหล่งรวม Blog ใหญ่ๆ ก็มีที่เว็บของผู้จัดการ (weblog.manager.co.th) หรือถ้าท่านผู้อ่านยังมีใจวัยรุ่นหน่อยก็ลองไปดูที่ www.kapook.com ก็ได้ครับ ผมเองก็ลองเริ่มเขียน Blog บ้างแล้วครับ ฝากไว้ในเว็บของผู้จัดการ ท่านผู้อ่านลองไปหาดูแล้วกันนะครับ


ที่มาของข้อมูล

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 9

Blog คืออะไร?

Blog คืออะไร?

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Blog คืออะไร? แตกต่างจากไดอารี่ online ไหม? แล้วทำไมคำๆนี้ถึงมาแรงจัง ไปไหนๆก็มีแต่ Blog สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่?

บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง

ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย - Wikipedia

สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด
Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่ง

Blog ส่วนใหญมักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดู

Blog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้


ที่มาของข้อมูล

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 8

บล็อกคืออะไร
บล็อก Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog โดยการผสมคำระหว่าง WEB ( Wolrd Wide Web) +LOG (บันทึก) = บล็อก

บล็อก หมายถึงเว็บไซต์ ในรูปแบบย่อส่วน ที่มีรูปแบบเนื้อหาเรียบง่าย เป็นกันเอง เหมือนกับการบันทึกเรื่องพูดคุยกันของคนที่ชอบหรือสนใจในเรื่องเดียวกัน คล้ายกับบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ แลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น comments ให้กับผู้เข้าชม และก็จะมี link แนะนำไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

บล็อก (Blog) เป็น เว็บไซต์ที่เจ้าของสามารถบันทึกบทความ รูปภาพ วีดีโอ ของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ สามารถบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในเว็บได้ตลอดเวลา การสร้างเว็บบล็อกสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ซับซ้อน ไม่เสียสตางค์ ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML อย่างน้อยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์บ้าง

บล็อก เป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนรูปแบบของการสื่อสารในอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเว็บไซค์ ซึ่งมีรูปแบบเป็นทางการมากกว่า บล็อกเกิดขึ้นมาเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปของเว็บไซค์ คนเขียนบล็อก สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสื่อสารมวลชน เขาสามารถสื่อสารกันเองในกลุ่มเล็กๆ หรือกลุ่มใหญ่ก็ได้ ถ้าเรื่องไหน เป็นที่ถูกใจ ของชาวบล็อก ชาวเน็ต คนๆ นั้น อาจจะดังได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อหลักช่วยเลย

ตัวอย่างของ Blog ในขณะนี้คือ WeBlog ของ Blogger.com ซึ่งถ้าใช้โดเมนฟรี Url จะแสดงผลเป็น
ทำเว็บบล็อก.Blogspot.com แต่ถ้าจดโดเมนเอง จะเป็น ทำเว็บบล็อก.com

ที่มา ที่มี่ครับ

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 7

blog คืออะไร ?

เมื่อกล่าวถึง Blog หลายๆคน คงพูดทับศัพท์กันไป ว่า "บล็อก" ความหมายคืออะไร? กล่าวสั้นๆ ก็คือเว็บไซต์ หรือเว็บเพจ ซึ่งก็เป็นคำอธิบายกว้างๆ แต่มีผู้ให้นิยามศัพท์คำว่าBlog นี้ต่างๆ กันไป อาทิเช่น

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้คำนิยามคำว่า "บล็อก" ไว้ดังนี้

บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"

บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่ กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์

เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราที ได้อ้างไว้ว่าปัจจุบันในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมากกว่า 112 ล้านบล็อกทั่วโลก

web blog คืออะไร หลาย คนก็ได้ให้ความหมายสั้นๆว่าเป็นการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ

บล็อก คือ สื่อใหม่ (New Media) เป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารในอดีตอย่างสิ้นเชิง คนเขียนบล็อก สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสื่อสารมวลชน เขาสามารถสื่อสารกันเองในกลุ่มเล็กๆ หรือกลุ่มใหญ่ก็ได้ ถ้าเรื่องไหน เป็นที่ถูกใจ ของชาวบล็อก ชาวเน็ต คนๆ นั้น อาจจะดังได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อหลักช่วยเลย

จากที่ยกตัวอย่างความหมายของคำว่า "บล็อก" มา พอสังเขปจากหลากหลายแนวคิดแล้วนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นก็เห็นด้วยกับคำนิยาม หรือความหมายของBlog ทั้งหมด แต่โดยส่วนตัวนั้นอาจจะเพิ่มเติมในส่วนของบล็อก นั้นเป็นเสมือนเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่มีระบบจัดการต่างๆ ได้มากมาย เหมาะสมกับผู้ที่ไม่สามารถพัฒนาเว็บไซต์ได้เอง และ บล็อก ก็ไม่จำกัดความสามารถในการพัฒนาต่อไป แบบไม่มีสิ้นสุด ซึ่งมีทั้งแบบฟรี แบบเสียค่าใช้จ่าย หรือแบบเขียนบล็อก เองหรือ สร้างmuli blog หรืออื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่ง จากนิยามความหมายของคำว่า บล๊อกคืออะไรนั้นคงไม่จำกัดเฉพาะแนวคิดใด แนวคิดถึง ซึ่งก็ยังมีนิยามต่างๆ ในแต่ละมุมของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป

ที่มาของเนื่อหาครับ

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 6

ความหมายของคำว่า Blog

Blog คือ การบันทึกบทความของตนเอง (Personal Korunal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การมองโลกของเรา ความคิดเห็นของเราต่อเรื่องต่าง ๆ หรือเป็นบทความเฉพาะด้าน เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ

Blog มาจากคำว่า WeBlog บางคนอ่านว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งหมาดคือ Blog ซึ่งหมายถึง การบันทึกบทความของตนเอง (อาจเป็นอักษร รูปภาพ มัลติมีเดีย) ลงบนเว็ปผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต เพื่อเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับทราบ Blog หรือ Web Blog เป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน โดยผู้อ่านสามารถโต้ตอบได้โดยการ comment

Web blog คืออะไร

BlogGang คือ "Web log" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "blog" ชื่อดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1997 โดยผู้ที่คิดชื่อนี้คือ Jorn Barger "weblog" (เว็บ Blog) หมายถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ที่ผู้สร้างหรือที่เรียกว่า blogger จัด ทำขึ้นเพื่อเป็นที่บอกเล่าเรื่องราว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอบทความใหม่ๆ วิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง หรืออื่นๆ ที่ผู้ใช้เห็นว่าน่าสนใจ พร้อมกันนั้น ยังเปิดให้ผู้เยี่ยมชมได้สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ topic ต่างๆ ที่ได้ตั้งขึ้นอีกด้วย บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ weblog โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเองในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง เรื่องหรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่งBlog ส่วน ใหญ่มักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดูBlog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของเรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนำข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทำตัวเป็น PR ให้ กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย

ประโยชน์ของ Web blog

Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึงแม้ว่า blog จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิตประจำวัน บาง blog เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะแจกแจงได้ดัง นี้

1.เปิดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่าประสบการณ์หรือความคิดของเจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง

2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ

3. กลั่นกรองข้อมูล blog บาง blog จะมีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนนำลง blog ทำให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนำเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บ

4. รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกำเนิดของการทำ blog หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนำว่าเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น

5. การแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความในใจของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ การทำ blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้

6. ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวัน หรือเป็นการเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com

7. โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง blog สำหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว ­- สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง


ที่มาครับ